ในช่วงแรกผลผลิตส่วนใหญ่ส่งขายในตลาดใกล้เคียง และส่วนหนึ่งเป็นของฝากหน่วยงานที่ทำธุรกิจร่วมกัน ต่อมาเจ้าของสวนบริเวณใกล้เคียงได้เสนอขายที่ดินให้กับคุณสุวัฒน์ ซึ่งผลไม้อื่นทดแทนพื้นที่ดังกล่าว โดยในระยะแรกเริ่มต้นด้วยการปลูก ทุเรียน มังคุด เงาะ แต่ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ต่อมาในปีพ.ศ. 2539ได้เปิดให้หน่วยงานราชการและพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวนยางพารา กระทั่งในปีพ.ศ.2538 ราคายางพาราตกต่ำประกอบกับขาดแรงงานในการกรีดยาง จึงต้องทำการโค่นต้นยางออก แล้วปลูกเกษตรกรที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงาน โดยการเดินชมและมีเจ้าหน้าที่บรรยายให้ความรู้
สวนสุภัทราแลนด์ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการในปีพ.ศ.2540โดยใช้รถไถพ่วงกับรถราง ช่วงแรกจะเปิดให้บริการเฉพาะฤดูผลไม้ ( พฤษภาคม–มิถุนายน) หลังจากนั้นได้ทำการปรับปรุงขยายพื้นที่ปลูกผลไม้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีเฉพาะทุเรียน มังคุด เงาะ เพิ่มเป็น องุ่น ขนุน ลำไย มะเฟือง มะพร้าว ลองกอง สละ แก้วมังกร ชมพู่ เป็นต้น ซึ่งสวนสุภัทราแลนด์เป็นแหล่งรวบรวมไม้ผลเมืองร้อนไว้มากถึง 25 ชนิดบนเนื้อที่ 800 ไร่ เพื่อให้มีผลไม้ออกตลอดทั้งปี โดยยึดหลักการท่องเที่ยวคือ แหล่งเรียนรู้ ดูและชิม อิ่มคุณภาพ เที่ยวได้ทั้งปี และได้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวมาจนถึงปัจจุบัน
ลักษณะการท่องเที่ยว คือ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถบริการชมสวน ภายใต้บรรยากาศที่ร่มรื่น ผสมผสานกับการจัดสวนได้อย่างสอดคล้องลงตัว และรถไฟแต่ละคันจะมีวิทยากรแนะนำให้ความรู้ และข้อมูลเกี่ยวกับสวน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น